เครื่องเหล็กนัมบุ (南部鉄器) เป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่จังหวัดอิวาเตะภาคภูมิใจ มีถิ่นกำเนิดที่เมืองโมริโอกะ (盛岡) และเมืองโอชู (奥州) ของจังหวัดอิวาเตะ ในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น เครื่องเหล็กนัมบุมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี และว่ากันว่าน้ำที่ต้มด้วยเครื่องเหล็กนัมบุจะมีรสสัมผัสที่ไหลลื่นและรสกลมกล่อม ทำให้ชื่อเสียงของเครื่องเหล็กนัมบุนี้ดังไกลออกไปถึงต่างประเทศเลยทีเดียว
ในช่วงหลังๆ มานี้ ได้มีการผลิตเครื่องเหล็กนัมบุแบบใหม่ๆ ที่ขยายกรอบจากดีไซน์ดั้งเดิมมาเป็นดีไซน์สมัยใหม่ เต็มไปด้วยสีสันเหมาะสำหรับการนำมาประดับบ้าน เครื่องเหล็กนัมบุมีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก หากได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เครื่องเหล็กชิ้นเดียวก็สามารถส่งต่อกันได้ถึงสามชั่วอายุคนเลยทีเดียว นอกจากนี้ เครื่องเหล็กนัมบุยังได้รับจดทะเบียนให้เป็นหนึ่งในงานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นด้วย
ประวัติเครื่องเหล็กนัมบุ
เครื่องเหล็กนัมบุเป็นเครื่องเหล็กที่ผลิตในเมืองโมริโอกะและเมืองโอชู จังหวัดอิวาเตะ ต้นกำเนิดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องหล่อโมริโอกะ (盛岡鋳物) ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองโมริโอกะและเครื่องหล่อมิซึซาวะ (水沢鋳物) ที่มีต้นกำเนิดจากมิซึซาวะเมืองโอชู โดยเครื่องหล่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยการหลอมโลหะจนเหลวแล้วเทลงในแม่พิมพ์
เครื่องหล่อโมริโอกะ เริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดย "นัมบุ ชิเกนาโอะ" (南部重直) เจ้าเมืองรุ่นที่ 2 ของแคว้นโมริโอกะ* ในเวลานั้น แคว้นโมริโอกะเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรเหล็กมากมายและเหมาะสำหรับการทำอุตสาหกรรมเครื่องหล่อมานานแล้ว ชิเกนาโอะจึงรวบรวมช่างฝีมือมาตั้งโรงหล่อและเริ่มสนับสนุนการผลิตเครื่องหล่อ
ในช่วงเวลาเดียวกัน ชิเกนาโอะก็ได้จ้างช่างทำกาต้มน้ำที่เป็นต้นตระกูลของ "โคอิซุมิ นิซาเอมอน" (小泉仁左衛門) มาจากเกียวโตใน ค.ศ. 1659 และมอบหมายให้ให้เขาผลิตกาต้มน้ำร้อนในปราสาท
ต่อมา เทคโนโลยีเครื่องหล่อของแคว้นนัมบุก็ได้เติบโตขึ้นอย่างมากจากการเชิญช่างหล่อและช่างฝีมือหม้อชาจากเกียวโตและโคชู (จังหวัดยามานาชิในปัจจุบัน) มาทำงานในแคว้นโมริโอกะ จนในรัชสมัยของเจ้าเมืองรุ่นที่ 8 "นัมบุ โทชิโอะ" (南部利雄) ช่างฝีมือโคอิซุมิ นิซาเอมอน รุ่นที่ 3 ก็ได้คิดค้นกาต้มน้ำเหล็กขนาดกะทัดรัดที่มีพวยกาและด้ามจับ ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของเครื่องเหล็กนัมบุในปัจจุบัน
โทชิโอะถูกใจกาต้มน้ำนี้เป็นอย่างมากและนำไปมอบให้โชกุนและขุนนางศักดินาคนอื่นๆ เป็นของขวัญ ทำให้ชื่อเสียงของเครื่องเหล็กนัมบุแพร่หลายไปทั่วประเทศ
* แคว้นโมริโอกะ (盛岡藩) หมายถึง พื้นที่ตั้งแต่จังหวัดอิวาเตะตอนกลางในปัจจุบันไปจนถึงทางตะวันออกของจังหวัดอาโอโมริ หรือเรียกอีกชื่อว่า แคว้นนัมบุ เพราะเจ้าเมืองมาจากตระกูลนัมบุ (南部)
เครื่องหล่อมิซึซาวะถือกำเนิดขึ้นสมัยปลายยุคเฮอัน (平安時代) (ค.ศ. 794 - 1185) ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นมาจากตอนที่ "ฟุจิวาระ โนะ คิโยฮิระ" (藤原清衡) เชิญคนงานมาจากโรงหล่อในโอมิ (จังหวัดชิกะในปัจจุบัน) และให้พวกเขาทำงานผลิตของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หม้อและกาต้มน้ำในโอชู ทีแรก พวกเขาผลิตของใช้ในชีวิตประจำวันและเครื่องมือการเกษตรเป็นหลัก เช่น จอบและคันไถ แต่เมื่อเข้าสู่ยุคเซนโกคุ* พวกเขาก็เริ่มขยายการผลิตเพื่อทำยุทโธปกรณ์ทางทหารอย่างอาวุธและกระสุนอีกมากมายด้วย และในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 - 1868) การผลิตก็ตกอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของตระกูลดาเตะ (伊達) และได้ขยายขอบเขตการผลิตไปถึงเครื่องใช้ในวัดและศาลเจ้า เช่น ระฆังพุทธและกระถางธูป
ในช่วงศตวรรษที่ 20 วิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นก็เปลี่ยนไป ประกอบกับการที่อลูมิเนียมได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะมีราคาถูก น้ำหนักเบา และจัดการได้ง่ายกว่าเหล็ก ส่งผลให้ความต้องการของเครื่องหล่อมิซึซาวะลดลงอย่างมาก ราคาจึงตกลงและอุตสาหกรรมการหล่อก็ทยอยปิดตัวไป
นอกจากนี้ ในช่วงสงครามญี่ปุ่น-จีน กับสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรัพยากรเหล็กส่วนใหญ่ก็ถูกนำไปใช้ในการผลิตสินค้าทางการทหาร ประกอบกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้ความต้องการเครื่องหล่อโมริโอกะและเครื่องหล่อมิซึซาวะลดลง ในสมัยโชวะที่ 30 (ค.ศ. 1955 - 1960) เครื่องหล่อโมริโอกะและเครื่องหล่อมิซูซาวะจึงได้ถูกยุบรวมกันอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ "เครื่องเหล็กนัมบุ"
ต่อมาใน ค.ศ. 1975 เครื่องเหล็กนัมบุได้รับการจดทะเบียนเป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่กำหนดโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ทำให้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและเทคนิคการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการในสมัยก่อนได้
* ยุคเซนโกคุ (戦国時代) หมายถึง ยุคสงครามในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 - ปลายศตวรรษที่ 16 ที่ขุนศึกทั่วประเทศต่อสู้กันเอง
ลักษณะเด่นของเครื่องเหล็กนัมบุ
เครื่องเหล็กนัมบุมีจุดเด่นอยู่ที่ความทนทานต่อการเกิดสนิม แข็งแรง คงทน และยังมีคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อนได้ดีเยี่ยม สินค้าเครื่องเหล็กนัมบุที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ กาต้มน้ำเหล็กนัมบุ เพราะเชื่อกันว่าน้ำที่ผ่านการต้มด้วยกาเหล็กนัมบุนี้จะมีรสชาติที่กลมกล่อม กาต้มน้ำเหล็กนัมบุแบบดั้งเดิมจะเป็นสีดำ ดูหนัก และมีลักษณะเฉพาะด้วยลวดลายที่เป็นตุ่มกลมดูตะปุ่มตะป่ำอยู่บนพื้นผิวที่เรียกว่า "อาราเระ" (あられ)
เครื่องเหล็กนัมบุผลิตโดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “จูคิน" (鋳金) เป็นการเหล็กหลอมลงในแม่พิมพ์ที่เรียกว่า อิกาตะ (鋳型) ซึ่งตัวแม่พิมพ์นี้ก็สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ แม่พิมพ์ดิบ (生型) ซึ่งทำขึ้นโดยการผสมทรายเข้ากับน้ำและสารตกตะกอน แล้วกดเข้าในพิมพ์ อีกประเภทหนึ่งคือแม่พิมพ์เผา (焼型) ซึ่งทำจากการเผาแม่พิมพ์ในอุณหภูมิสูง
กระบวนการผลิตเครื่องเหล็กนัมบุสามารถแบ่งได้เป็น 4 ขั้นตอน คือ การออกแบบ การทำแม่พิมพ์ การหล่อ และการลงสี โดยขั้นตอนแรกจะต้องทำการออกแบบเพื่อนำไปสร้างแม่พิมพ์ จากนั้นจึงนำเหล็กหลอมเหลวไปเทลงในแม่พิมพ์ เมื่อเหล็กเย็นและแข็งตัวแล้ว ให้นำเหล็กออกจากแม่พิมพ์ และจบท้ายด้วยการลงสีตกแต่ง
เครื่องเหล็กนัมบุในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน เครื่องเหล็กนัมบุได้ปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ด้วยรูปแบบที่ทันสมัยและมีสีสันที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สีแดงและสีเขียว น้ำที่ต้มในกาต้มน้ำเหล็กนัมบุนั้นมีรสชาติที่กลมกล่อม ทำให้ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กาต้มน้ำเหล็กนัมบุจึงไม่ได้มีเพียงแบบดั้งเดิมที่อยู่ในรูปกาน้ำสีดำงามสง่า แต่ได้มีดีไซน์การออกแบบที่เป็นสีสันดูทันสมัยมากขึ้น
เครื่องเหล็กนัมบุที่ขายกันอยู่ทุกวันนี้ ยังมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดูเก๋ไก๋ สีสันสวยงามและทันสมัย เช่น กระทะและกระดิ่งลม จึงได้รับความสนใจในฐานะสินค้าแฟชั่นด้วย และใน ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมาก็มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเหล็กนัมบุที่ออกแบบร่วมกับอนิเมะเรื่อง "Mobile Suit Gundam" ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของงานฝีมือดั้งเดิมอย่างเครื่องเหล็กนัมบุที่กำลังพัฒนาไปสู่ตลาดต่างประเทศผ่านการทำงานผสมผสานกับอนิเมะญี่ปุ่น
แม้ว่าความนิยมในเครื่องเหล็กนัมบุจะเคยลดลงอยู่หลายครั้งจนเกือบจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แต่ก็ยังสามารถสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม อีกทั้งยังมีการปรับตัวให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้น ในปัจจุบัน เครื่องเหล็กนัมบุนั้นมีชื่อเสียงไปถึงต่างประเทศ และเป็นที่รู้จักกันในฐานะงานฝีมือดั้งเดิมระดับโลก
สินค้าแนะนำ!
Iwachu Type 7 Arare สีดำไหม้ ขนาด 0.9 ลิตร (ใช้กับเตาไฟฟ้าได้) | เครื่องเหล็กนัมบุ
กาต้มน้ำเหล็กนัมบุจากแบรนด์ Iwachu (岩鋳) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องเหล็กนัมบุที่ก่อตั้งมายาวนานตั้งแต่ ค.ศ. 1902 กาต้มน้ำเหล็กใบนี้เป็นตัวแทนของเครื่องเหล็กนัมบุแบบดั้งเดิมที่รองรับการใช้งานกับเตาไฟฟ้าสมัยใหม่ (IH) ใบนี้มีลวดลายแบบอาราเระสวยงาม หากคุณดูแลอย่างถูกวิธีแล้วล่ะก็ จะสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิตเลยทีเดียว
Gundam Cafe Limited รุ่น ZAKU จากอนิเมะเรื่อง Mobile Suit Gundam | เครื่องเหล็กนัมบุ
กาต้มน้ำที่มีดีไซน์ของ Zaku จากอนิเมะเรื่อง Mobile Suit Gundam เป็นสินค้าที่ผลิตจำนวนจำกัดและได้รับความนิยมมาก เป็นการผสมผสานเครื่องเหล็กนัมบุแบบดั้งเดิมเข้ากับอนิเมะยอดนิยมได้อย่างลงตัว นับว่าเป็นของที่ควรมีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกันดั้ม
MONTAGNE Arare Pattern ทรงกลม สีขาว ขนาด 0.6 ลิตร | เครื่องเหล็กนัมบุ
สามารถต้มได้ทั้งน้ำทั่วไปและน้ำสำหรับพิธีชงชาญี่ปุ่นที่ปกติจะใช้กาที่เรียกว่า คิวซุ (急須) โทนสีที่ทันสมัยของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากสีขาวแล้วก็ยังมีสีอื่นให้เลือกอีกมากมาย หากสนใจก็สามารถดูเพิ่มเติมในลิงก์ด้านล่างได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง:
▶ คู่มือแนะนำ 3 สุดยอดแหล่งผลิตของมีคมในญี่ปุ่น
▶ 8 เรื่องลับน่ารู้เกี่ยวกับมีดทำครัวของญี่ปุ่น
▶ 9 แบรนด์ถ้วยชามญี่ปุ่นน่าใช้ในวันพิเศษ
หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !
* สินค้าบางชนิดอาจไม่สามารถจัดส่งไปยังบางประเทศได้ ดังนั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของผู้ขายก่อนทำการสั่งซื้อ
อัพเดทข้อมูลล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่บทความ